เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เขาช้างเผือกอยู่ในบริเวณป่าบ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เป็นเขาที่ใครๆ ก็อยากจะมา ฮอตฮิตเหลือเกิน เพราะวิวสันคมมีดสวยๆ วิวรอบตัว 360 องศา และความยากในการมา
ที่ยากไม่ใช่เส้นทางเดินขึ้น แต่เป็นการจองขึ้นเขาช้างเผือกที่ใครๆก็บอกว่ายากกกมากกกกก
ด้วยระยะเวลาการเปิดที่ปีนี้เปิดเพียงประมาณ 1 เดือนครึ่ง และจำกัดจำนวนคนขึ้นเขาไม่เกิน 60 คนต่อวัน
มาถึงที่นี่ ไฮไลท์คือการไปเดินบนสันเขา และพิชิตยอดเขาช้างเผือกที่ความสูง 1,249 เมตรจากระดับนำ้ทะเล
เส้นทางเดิน จุดตั้งแคมป์ และการขึ้นสันคมมีด
เส้นทางเดินระยะทาง 8 กม. เจ้าหน้าที่บอกมาว่าข้าม 2 เขา กับ 4 เนิน
เส้นทางเดินส่วนใหญ่ไม่มีร่มเงา เดินในพงหญ้า และเดินเลียบเขา ถ้ามาเดินกันให้ระวังเรื่องแดดร้อนด้วยนะ
ระยะทางไม่ไกล ทางเดินไม่ยาก แต่เราแอบรู้สึกเหนื่อย กับสัมภาระที่แบกอยู่บนหลัง 14 กก.
ไปเดินที่ไหนก็ไม่เคยเป็นตะคริว มาที่นี่ขึ้นสองข้างเลยจ้าาาาา แล้วเป็นตะคริวตอนระหว่างเดิน ยังเหลือเขาให้ข้ามอีกเป็นลูก
เดินตามเส้นทางมาเรื่อยๆ ขึ้นๆลงๆ ข้ามเขาข้ามเนิน ก็มาถึงจุดตั้งแคมป์
ที่นี่มีพื้นที่กางเต็นท์ค่อนข้างจำกัด มีส้วมหลุม 3 ห้อง
หลังจากกางเต็นท์ พักขากันซักพักแล้ว ช่วงบ่ายๆเย็นๆ ซัก 15.30 – 16.30 น.ก็ได้เวลาเดินขึ้นสันคมมีดและยอดเขาช้างเผือก
(แล้วแต่เจ้าหน้าที่ว่าจะพาขึ้นกี่โมง ต้องดูว่านักท่องเที่ยวมากับครบหรือยัง สภาพอากาศเป็นยังไง ขึ้นได้หรือขึ้นไม่ได้)
การเดินขึ้นสันคมมีดและไปยอดเขาช้างเผือกจะมีเจ้าหน้าที่นำทางขึ้นไปพร้อมกันทุกกลุ่ม
ตอนขึ้นสันเขาจะมีช่วงที่ต้องดีงเชือกขึ้นและเกาะสลิง ช่วงที่ปีนหิน
อาจจะดูตื่นเต้นไปหน่อย แต่ตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ช่วยเซฟ และแนะนำว่าต้องเอาเท้าเหยียบตรงไหน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวนะ ขอให้เราระมัดระวัง ไม่ประมาท ทั้งเวลาปีนขึ้น ตอนเดินสันคมมีด และตอนอยู่บนยอดเขา เพราะสันเขาแคบและลมแรง
พอไปถึงยอดเขาช้างเผือก ก็ถ่ายรูปกันไป จนถึงเวลา เจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มให้นักท่องเที่ยวลง เพราะต้องลงให้หมดก่อนพระอาทิตย์ตก ซึ่งตอนลงก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเช่นกัน
ถามว่าชอบที่นี่ไหม
เราบอกเลยว่าชอบมาก วิวสวยมากกก วิวสันเขาที่ทอดตัวยาว วิวรอบตัว 360 องศา และลมเย็น ๆ เมื่ออยู่บนเขา
แต่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ยังไม่ได้พบเจอแบบที่หวังไว้ เพราะวันที่ไปมาพายุเข้า เมฆเยอะ และลมแรงมาก แถมมีฝนตกเป็นพักๆตอนช่วงเดินขึ้นยอดและตอนกลางคืน พอตื่นเช้ามาก็เจอเมฆหมอกลง วิวสันเขาหายหมดจ้าาา
แต่ก็ดีตรงที่ทำให้เวลาเดินไม่ร้อนเลย
เราเลยตั้งใจไว้เลยว่า เราต้องไปซ้ำแน่นอน
ที่นี่ “เขาช้างเผือก”
—————-
เงื่อนไขการจองเพื่อขึ้นเขาช้างเผือกในปีนี้ (ปลายปี 2560 – ต้นปี 2561)
- เปิดถึง 31 มกราคม 2561
- เปิดให้จองล่วงหน้า 7 วันก่อนเดินทาง เปิดรับจองทางโทรศัพท์ 034510979 หรือ 0982520359 เวลา 8.30-16.30 น.
- จำกัดจำนวนไม่เกิน 60 คนต่อวัน
- ต้องแจ้งชื่อ นามสกุล เบอร์โทร เลขบัตรประชาชนของทุกคน และส่งเอกสารทางอีเมลภายใน 1 วัน
- วันมาเดินป่าขึ้นเขาช้างเผือก ให้ลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประชาชนตัวจริงที่ศูนย์บริการท่องเที่ยว ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 7.00-9.00 น. และพร้อมกันที่บ้านอีต่อง ไม่เกิน 10.00 น.
ค่าใช้จ่าย
- ค่าเข้าอุทยาน 40 บาทต่อคน
- ค่าจอดรถยนต์ 30 บาทต่อคัน
- ค่ากางเต็นท์ 30 บาท
- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 2,500 บาทต่อ 10-12 คน
- ลูกหาบ 1,300 บาท หาบได้ 30 กก. ส่วนเพิ่ม กก. ละ 50 บาท ขาลงไม่รับหาบเพิ่ม จะหาบเฉพาะของที่หาบขึ้นไปเท่านั้น
ติดตามข่าวสารช่วงเวลาการเปิดเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาช้างเผือก ข้อปฏิบัติและขั้นตอนการจองของแต่ละปีได้ที่เฟสบุค อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ค่ะ
เนื้อหาเยอะแล้ว มาดูรูปกันบ้างดีกว่าค่ะ
————
เขาช้างเผือกอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยหลังจากเราไปลงทะเบียนที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวแล้ว ให้ขับรถมาที่บ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก ซึ่งที่หมู่บ้านนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเดินขึ้นเขาช้างเผือก
มาถึงหมู่บ้านแล้ว ก็จอดรถ จัดของให้ลูกหาบ จากนั้นก็เดินผ่านเส้นทางถนนในหมู่บ้านเพื่อไปยังจุดนัดหมายเจ้าหน้าที่
ระหว่างนี้ ก็แวะทานข้าว และซื้อเสบียงไว้กินระหว่างทางเดินขึ้นเขาช้างเผือก จากร้านค้าในหมู่บ้าน
จุดนัดหมายเจ้าหน้าที่
ป้ายเขาช้างเผือก กับระยะทางที่ต้องเดินอีก 8 กม.
มาถึงจุดนี้ ก็เจอเจ้าหน้าที่ยืนรออยู่ โดยเราจะต้องรอให้นักท่องเที่ยวครบ 10 – 12 คน เจ้าหน้าที่อุทยานก็จะนำทางพาเราเดินไปยังเส้นทางเพื่อขึ้นเขาช้างเผือก
เดินตามเจ้าหน้าที่ไปเรื่อย ๆ ออกจากหมู่บ้าน เข้าป่า ขึ้นเนิน เจ้าหน้าที่บอกว่า นี่ยังไม่ถึงจุดเริ่มเดินเลยนะ
หืมมม… นี่ยังไม่ถึงจุดเริ่ม เราก็เหนื่อยแล้วนะ ฮ่าาาา
คือต้องเจอป้ายก่อนไง ถึงจะเป็ฯจุดเริ่มเดินอย่างเป็นทางการ
เดินจนเริ่มเหนื่อย .. เราก็เพิ่งมาเจอป้าย ขอต้อนรับสู่เส้นทางผู้พิชิตยอดเขาช้างเผือก
ก่อนจะเริ่มเดินในเส้นทางนี้ ก็ให้มาเขียนชื่อลงทะเบียนกันก่อน
เห็นเงาดำๆ ด้านหลังนั่นไหม .. นั่นล่ะ เป้าหมายของเราในวันนี้ ยอดเขาช้างเผือก
ซูมให้ดูกันชัด ๆ หน่อย .. ยอดเขาช้างเผือก
ทำพิธีถ่ายรูปกับป้ายจนเสร็จ ก็เริ่มเดินกันเลยค่ะ
เส้นทางเดินส่วนใหญ่ไม่มีร่
แต่ละเขา / เนิน มีป้ายบอกชื่อ ความสูงจากระดับน้ำทะเล ระยะทางถึงเขาช้างเผือก และระยะทางถึงสถานีต่อไป
เจ้าหน้าที่บอกมาว่าเดินที่
ที่เว้าลงมานั่นคือจุดกางเต็นท์ เดินขึ้นต่อไป จะเป็นเส้นทางสันคมมีด และที่เห็นยอดเขาสูงๆ นั่นคือยอดเขาช้างเผือก
จุดกางเต็นท์ เส้นทางสันคมมีด และยอดเขาช้างเผือก
เดินตามเส้นทางมาเรื่อยๆ ขึ้นๆลงๆ ข้ามเขาข้ามเนิน ก็มาถึงจุดตั้งแคมป์
ที่นี่มีพื้นที่กางเต็นท์ค่อนข้างจำกัด และมีส้วมหลุม 3 ห้อง
จุดกางเต็นท์ และเส้นทางเดินต่อเพื่อขึ้น
หลังจากกางเต็นท์ พักขากันซักพักแล้ว ช่วงบ่ายๆเย็นๆ ซัก 15.30 – 16.30 น. ก็ได้เวลาเดินขึ้นสันคมมีดและยอดเขาช้างเผือก
นี่คือเส้นทางเดินต่อจากจุดกางเต็
วิวจุดตั้งแคมป์ที่มองกลับมาจากบนทางขึ้นสันคมมีด
ตอนขึ้นสันเขาจะมีช่วงที่ต้
อาจจะดูตื่นเต้นไปหน่อย แต่ตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่คอย
ผ่านช่วงความตื่นเต้นไปแล้ว สิ่งที่ได้พบเจอมันคุ้มจริง ๆ นะกับวิวสวย ๆ รอบตัว 360 องศา วิวภูเขา และวิวสันเขา
เดินตามสันเขามาเรื่อย ๆ ด้วยความระมัดระวังและตื่นเต้น เพราะทางเดินแคบและลมแรงเหลือเกินนนน
จากนั้นเดินขึ้นเนินครั้งสุดท้าย ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกลงมา
เราก็มาถึงละค่ะ ยอดเขาช้างเผือกกกก
มาถึงปุ๊บ ฝนก็หยุดเลยค่ะ ดีจริงๆ เหมือนจะรู้ว่าเราต้องใช้เวลาถ่ายรูปบนนี้กันซักพัก ฮ่าาา
พอเริ่มตกเย็น เจ้าหน้าที่ก็จะให้นักท่องเที่ยวลง เพราะต้องลงให้หมดก่อนพระอาทิตย์ตก
ขาลงจากยอดเขากลับเต็นท์ จะผ่านช่วงตื่นเต้นอีกแล้ว พยายามทำหน้าตาร่าเริง ฮ่าาาา
ขาลงก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลค่ะ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกวันนะที่จะได้ขึ้นไปเดินบนสันคมมีด
บางวันขึ้นไปถึงจุดกางเต็นท์ได้แล้ว แต่เจออากาศไม่ดี ก็ไม่สามารถขึ้นไปบนสันเขาและยอดเขาช้างเผือกได้
เราแม้จะได้เดินขึ้นสันคนมีดและยอดเขา แต่ก็แอบมีฝันสลาย อยากได้รูปสันเขากับฟ้าใส อยากดูพระอาทิตย์ตก กลางคืนอยากถ่ายดาว เช้าอยากถ่ายสันเขาแบบมีแสงอาทิตย์อ่อนสาดลงมา .. ปรากฎว่าไม่มีเลยยยย
เพราะวันที่ไปมาพายุเข้า เมฆเยอะ และลมแรงมาก แถมมีฝนตกเป็นพักๆตอนช่วงเดินขึ้นยอดและตอนกลางคืน พอตื่นเช้ามาก็เจอเมฆหมอกลง วิวสันเขาหายหมดจ้าาา
แต่ก็ดีตรงที่ทำให้เวลาเดินทั้งวันที่เดินขึ้นและวันที่เดินลง ไม่เจอแดดร้อน ๆ แบบที่ใครๆ ก็บอกไว้
ของเรายังดีที่ได้ขึ้นสันเขา ได้ยินมาว่ากลุ่มที่ขึ้นต่อในวันที่เราลง เดินไปถึงจุดกางเต็นท์แต่ไม่ได้ขึ้นสันเขาเพราะสภาพอากาศและทัศนวิสัยไม่โอเค
กลับลงมาจากยอดเขาแล้ว ก็ทำอาหารเย็นกินกัน ท่ามกลางลมที่รุนแรงและอากาศหนาวๆ กินเสร็จหนีเข้าเต็นท์เลย
คืนนั้นลมตีเต็นท์กับฟลายชีทรุนแรงทั้งคืน ฟึ่บฟั่บ ฟึ่บฟั่บ
บรรยากาศตอนเช้า สันเขาหายไปไหนนนน
เมฆหมอกลง และลมแรงมาก แต่ก็สวยไปอีกแบบ และทำให้ระหว่างเดินลง อากาศเย็นดีมากกก
นี่ต้นไม้ใบหญ้าสูง หรือตัวเราเตี้ย
รูปสุดท้ายกับวิวสวย ๆ ระหว่างลงเขา
ถามว่าชอบที่นี่ไม๊
เราชอบมาก วิวสวยมากกก
เราต้องมาซ้ำอีกแน่นอนที่นี่ เขาช้างเผือก