ทุ่งนา สายฝน และเมฆขาว @ บ้านป่าบงเปียง

ถ้าพูดถึงฤดูกาลที่เราไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เมื่อก่อนเราคงตอบว่าเป็นฤดูฝน เพราะอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การที่ทำอะไรไม่ได้เวลาฝนตก ได้แต่หลบฝนเพื่อไม่ให้เปียก หรือความเฉอะแฉะที่ตามมาหลังจากฝนตก ทำให้ไม่ค่อยอยากจะออกไปไหน บรรยากาศท้องฟ้าหม่น ที่ทำให้ถ่ายรูปยังไงก็ไม่ได้ภาพที่ถูกใจ ทำให้ปกติแล้ว ฤดูฝน จึงเป็นฤดูที่เราไม่ค่อยออกไปเที่ยวที่ไหน ..

แต่หลังจากได้เห็นรูปท่องเที่ยวจากเพื่อน ๆ มากขึ้น ว่าจริง ๆ แล้ว ฤดูนี้มันเป็นฤดูที่เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ มีความอุดมสมบูรณ์ ก็ทำให้ความรู้สึกเราเปลี่ยนไป เราพบว่าจริง ๆ แล้ว มันก็มีหลายสถานที่นะ ที่เราสามารถไปเที่ยวได้ ไปเก็บรูปสวย ๆ ได้ และสถานที่ที่เรากำลังจะเขียนถึงนี้ ก็เป็นสถานที่ที่เราชอบมาก ๆ และคิดว่าคงจะไม่ไปที่นี่แค่เพียงครั้งเดียวแน่นอน ….. บ้านป่าบงเปียง

บ้านป่าบงเปียง …. พูดชื่อนี้ขึ้นมา หลาย ๆ คนคงจะนึกออกว่าเรามาที่นี่ทำไม ..  บ้านป่าบงเปียงเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่  ที่นี่เป็นที่รู้จักจากความสวยงามของทุ่งนา โดยช่วงเวลาที่มาเที่ยวในแต่ละเดือนก็จะได้ความสวยงามแตกต่างกันไป อยากมาดูความสวยงามของทุ่งนาที่ยังเป็นต้นกล้าก็มาช่วง ก.ค. – ส.ค. หรืออยากได้แบบเป็นต้นข้าวสีเขียวเต็มทุ่งนา ก็มาประมาณ ก.ย. – ต.ค.   และถ้ามาหลังจากนั้นอีกหน่อยก็จะเป็นทุ่งนาสีทอง .. แต่ว่าก็แล้วแต่ในแต่ละปีนะ .. บางปีก็เร็วกว่าปกติ .. บางปีก็ช้ากว่าปกติ … เอาช่วงเวลาให้แน่นอนคงยาก เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ

หลังจากไปถูกริวิวของคนอื่นบิ้วท์มาซักพัก … ก็คงต้องจัดให้ตัวเองได้ไปเห็นภาพบรรยากาศแบบนี้เองซักครั้ง …

ทริปนี้เราไปเมื่อปี่ที่แล้ว (2558) เป็นทริปที่เกือบไม่ได้ไป เพราะหาที่พักที่ป่าบงเปียงไม่ได้ จากเดิมที่ตั้งใจจะไปต้น พ.ย. เพื่อดูทุ่งนาสีทอง ก็ต้องเลื่อนขึ้นมาเรื่อย ๆ จนได้ที่พัก 10 -11 ต.ค. ซึ่งก็แอบหวั่นใจเล็กน้อยว่าจะหมดฝนรึยังนะ (ก็ยังแอบกลัวฝนอยู่ 5555) … สรุป ตกทั้ง 2 วันค่า .. แต่ก็ไม่เป็นไร ได้บรรยากาศแบบเขียวๆ ชุ่มฉ่ำแทน

เริ่มเดินทางกัน

เรานั่งรถทัวร์จาก กทม. ไปลงขนส่งอาเขตเชียงใหม่ จากนั้นขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปทาง หางดง > สันป่าตอง > จอมทอง (ทางหลวงหมายเลข 108) พอเจอป้ายอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (แถว ๆ กม. ที่ 58) ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 1009 ผ่านด่านตรวจ 1 น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริธาร จะเจอป้ายบ้านแม่กลางหลวง ทางซ้ายมือ จะแวะไปดูทุ่งนาบ้านแม่กลางหลวง และชิมกาแฟที่นี่ก่อนก็ได้นะ เราก็แวะทานข้าวเที่ยงที่นี่ จากนั้นขับตามทางขึ้นดอยไปเรื่อยๆ จะเจอด่านตรวจ 2 พอผ่านด่านตรวจแล้วให้เลี้ยวซ้ายเลย จะมีป้ายบอกว่าเป็นทางไปแม่แจ่ม ตรงไปซักพักจะเจอป้ายน้ำตกห้วยทรายเหลืองทางขวา เลี้ยวขวาเข้าไป เราเอารถไปจอดตรงที่น้ำตก แล้วโทรศัพท์เรียกให้พี่ในหมู่บ้านป่าบงเปียงมารับ … จากอาเขตเชียงใหม่ มาน้ำตกห้วยทรายเหลือง ระยะทางประมาณ 115 กม.

ทำไมไม่ขับรถเข้าไปเอง???

เพราะทางเข้ามันแบบว่า … อื่ม …. เป็นถนนดินแดง ที่เราคงไม่สามารถเอารถเก๋งเข้าได้ .. เลยต้องให้พี่เจ้าของบ้านที่เราจองที่พักไว้มารับ .. เอารถเข้าไปเองคงติดหล่มอยู่แถวนั้น ไม่ก็จบทริปคงต้องเอาไปเช็คช่วงล่างด่วน  ..  ขาเข้าไปถนนยังแห้ง  เลยไม่ยังไม่เห็นว่ามันจะเละขนาดไหน .. พอขาออกมาเพื่อจะกลับเท่านั้นล่ะ .. เละมาก ถนนเละมาก ขอชมพี่คนขับรถเลย ..บางช่วงก็เกือบจะติดหล่ม แต่พี่เค้าก็ถอยๆ บิดซ้ายบิดขวา พาเรามาส่งได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องช่วยกันขย่มรถเพื่อออกจากหล่ม 555 … ขอชมเลยว่าพี่สามารถ พี่เก่งจริง ๆ ขับทุกวันวันละหลายรอบนี่คงรู้หมดว่าหลุมอยู่ตรงไหน ตรงไหนต้องเบี่ยงซ้าย ตรงไหนต้องเบี่ยงขวา… เพราะฉะนั้น ถ้าจะขับรถมากันแล้วเอารถเก๋งมา …​ใช้บริการรับส่งของพี่เค้าเถอะนะ ไป-กลับ 700 บาท

รูปถนนตอนขาออกมาจากมู่บ้าน

24

นั่งหัวโยกหัวคลอนมาซักพัก … เราก็มาถึงแล้ว .. บ้านป่าบงเปียง หมู่บ้านของชาวปกากะญอ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ทำอาชีพทำนา ปลูกพืช .. พี่คนขับรถพาเรามาส่งที่พัก .. ซึ่งที่พักที่แนะนำกันในรีวิวทริปส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของพี่วิชัย แต่เราโทรไปแล้วเต็ม เลยได้บ้านของพี่ทองดี ราคา 500 บาท/คน/คืน รวมอาหารมื้อเย็นและเช้า ลูกพี่ทองดีจะเอาปิ่นโตและน้ำมาให้ที่บ้าน

บ้านของพี่ทองดี โอเคมากกก  อยู่ด้านบนของทุ่งนา ทำให้พออยู่บนบ้านจะเก็บภาพทุ่งนากว้าง ๆ ได้  บ้านที่เราอยู่เป็นหลังใหญ่ แยกออกมาตั้งเดี่ยว ๆ จาก homestay หลังอื่น ๆ   ..   พื้นยกสูง ใต้ถุนข้างล่างเอาไว้หุงหาอาหาร และห้องน้ำก็อยู่ชั้นล่าง  ส่วนชั้นบนเป็นชานบ้านเอาไว้นั่งทานข้าว  นอนเล่น  นั่งเล่น ชมวิว เอาเป็นว่าอยากจะทำอะไรก็ทำไป   ส่วนห้องนอนก็จะทำเป็นพื้นยกสูงขึ้นไปอีกนิดนึง   พื้นบ้านชั้นบนเป็นไม้ไผ่ .. อ่อ  ที่บ้านพักไม่มีไฟฟ้าใช้นะ

บ้าน homestay ที่เราพัก

12

ชานบ้าน

23

ห้องนอน

22

พอมาถึงบ้านพัก ก็นัดแนะเวลาว่าพรุ่งนี้จะให้มารับกี่โมงเพื่อไปส่งเราที่น้ำตก ส่วนอาหารเย็นวันนี้ และเช้าวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวลูกของพี่ทองดี (คือจำชื่อไม่ได้ ของเรียกตลอดการเขียนนี้ว่า ลูกพี่ทองดี ละกันนะ) จะเอามาส่งให้ … จากนั้นก็เข้าที่พัก .. พอเดินขึ้นมาบนชานบ้านเท่านั้นล่ะ เฮ้ย……. ประทับใจ …..​แค่นั่ง ๆ นอน ๆ ดูวิวนี้ซัก 1 วัน ก็คุ้มละที่มาที่นี่ …​ แต่สิ่งที่ผิดไปจากที่ตั้งใจไว้คือ สภาพอากาศ .. คือหวังมากกก หวังจะได้รูปแสงเย็นสาดลงทุ่งนา แต่  .. แต่ … ที่เห็นคือมีแต่เมฆขาว ๆ และอากาศที่ฝนพร้อมจะตกตลอดเวลา .. แต่ไม่เป็นไร เรื่องสภาพอากาศนี่ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ .. เอาเป็นว่าเท่าที่เห็น และเป็นอยู่ เราว่ามันก็สวยแล้ว

5

7

4

1

9

13

เก็บของ โยนของไว้ในห้องนอน .. จากนั้นก็ลงมาเดินในทุ่งนาเพื่อเก็บภาพ .. เราอยากจะเดินไปสุดทุ่งนามาก เราเห็นเค้าเดินไปกัน  ไปยืนถ่ายรูปกัน … คือมันต้องสวยแน่ ๆ .. แต่ด้วยความที่บ้านพักเราไกลกว่าคนอื่น​ (แต่ตั้งอยู่จุดที่สูงที่สุดของทุ่งนาเลยเก็บภาพมุมว้างๆ ได้) และด้วยสภาพอากาศ  ทำให้เราเดินไปไม่ถึงตรงสุดทุ่งนาซักที .. เดิน ๆ ไป . ถ่ายรูประหว่างทาง  … ฝนตก … กลับมาที่บ้าน …​รอฝนหยุด … เดิน ๆ ไป … ถ่ายรูประหว่างทาง… ฝนตก … กลับมาบ้านใหม่ .. จนเริ่มมืด แสงเริ่มหมด ก็ยังเดินไปไม่ถึงตรงสุดทุ่งนา 5555 ..​ไม่เป็นไร คราวหน้ามา จะพยายามเดินไปให้ถึงให้ได้เลย

11

กลับมาที่พัก ก็มีปิ่นโต และน้ำวางเอาไว้ให้ .. กินอิ่ม อร่อย อากาศดี หลับสบายเลยคืนนี้

16

เช้าวันถัดมา

ตื่นมาเจอบรรยากาศแบบนี้ …. ยังไม่อยากจะกลับเลยจริง ๆ

20

19

รีบคว้ากล้อง ..​ลงไปทุ่งนาเพื่อไปถ่ายรูป … ยังคงมีเป้าหมายเดินคือเดินไปจนสุดทุ่งนา

PA110215

6

3

แต่ยังไม่ทันไร  …. ฝนก็ลงเม็ดปรอย ๆ อีกแล้วค่าาาาา  .. วิ่งกลับบ้านสิคะ รออะไร .. ฮืออออ

ระหว่างนั่งเล่นอยู่ชานบ้าน รอฝนตกปรอย ๆ .. หยุด … ตกปรอย ๆ .. หยุด … ตกต่อ  … ก็ถ่ายรูปจากบนบ้านรอไปละกัน

8

2

ซักพักลูกพี่ทองดีก็มา เอาปิ่นโตมาให้ ….

15

17

18

ระหว่างที่เรานั่งกินข้าวเช้า ลูกพี่ทองดี ก็ต้มน้ำไว้ให้ เผื่ออยากจะกินกาแฟ กินโอวัลติน

PA110721

กินข้าวเสร็จ ก็แอบหวังว่า.. ซักแป๊บฝนหยุด ฟ้าต้องใส ..

นั่นคือความฝัน … นี่คือความจริง

21

…. หมอกลงค่ะ …

สุดท้ายก็เลยนอนเล่นบนบ้าน พักผ่อนเลยดีกว่า   อากาศดีๆเย็นๆ นอนหายใจเอาอากาศดีๆเข้าปอดไป ฮ่าา

นั่งเล่น นอนเล่น กลิ้งไป กลิ้งมาซักพัก .. ก็ได้เวลากลับ  เรานัดไว้ตอน 11 โมง รถกระบะก็มารับเพื่อไปส่งเราที่น้ำตก .. จากนั้นก็ขับรถเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ .. หาอะไรกิน พักผ่อนซักแป๊บ ก่อนจะไปขึ้นรถทัวร์กลับ กทม. .. เพื่อมาทำงานต่อในเช้าวันจันทร์ หาเงิน หาทุน ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และความสวยงามของธรรมชาติ ในทริปต่อไป 555  …

สรุปทริปนี้ อาหารดี  วิวดี  อากาศดี  บรรยากาศดี สงบดี ธรรมชาติดี …​ฟินละทริปนี้   ไม่ได้รูปแบบที่มีแสงแดดสาดลงทุ่งนาก็ไม่เป็นไร  เท่านี้ก็รู้สึกว่าโอเคมากมากกกก แล้วจริง ๆ  .. วิวแบบมีเมฆ  มีหมอกลง  มันก็สวยไปอีกแบบนะ  ถ้าถามว่าจะกลับไปอีกไม๊ .. เรากลับไปแน่นอน เราว่าที่นี่สวยนะ และต่อให้เจออากาศไม่ดี ก็เข้าใจว่าเที่ยวธรรมชาติ เรื่องสภาพอากาศเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ และแม้จะเจออากาศแบบนี้ แต่เราว่ามันก็สวยไปอีกแบบ

หน้าฝนนี้ ถ้ากำลังวางแผนท่องเที่ยวกันอยู่ … ที่นี่ บ้านป่าบงเปียง ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจนะ  มาดูวิวทุ่งนาสวย ๆ ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ  สูดอากาศดี ๆ เข้าปอด .. ชาร์จพลังให้ร่างกายกันซักนิด  ..   แม้จะมีเวลาแค่เสาร์ – อาทิตย์ ก็มาได้

หวังว่าปีนี้ …  เราคงจะมีโอกาสได้ไปอีก .. อยากจะกลับไปอีกจริง ๆ นะ ^__^

ส่งท้าย ๆ

  • ปีที่แล้วที่เราไป พี่คนขับรถบอกว่าปลาย ต.ค. – ต้น พ.ย. จะสวยมาก และน่าจะเกี่ยวข้าวเสร็จประมาณกลาง พ.ย.
  • รถกระบะคันที่มารับ ซ่อมช่วงล่างบ่อยมาก พี่เค้าบอกว่า “ซ่อมประจำ” ฮ่าาาาา
  • พีคสุด ….​  ลูกพี่ทองดี บอกว่า “เนี่ย ..อาทิตย์ก่อนอากาศดีนะ น้องนี่มาพร้อมฝนเลยนะครับ”  .. คือเจ็บปวดดด T^T

 

One Comment

  1. อ่านแล้วนึกตามไปด้วยเลยคุณ…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *