ภูกระดึง …​วันที่ 4 ต้องลงจากภูละสินะ

วันที่ 4 ที่ภูกระดึง ….​ ยังไม่อยากกลับเลยยยย

เราไปภูกระดึง 4 วัน 3 คืน …วันที่  19 – 22 ธ.ค. 58

ตอนของวันก่อนหน้า ไปตาม link นี้ได้เลยนะ

ตอนที่ 1 …  ภูกระดึง … วันที่ 1 keep walking

ตอนที่ 2 …  ภูกระดึง … วันที่ 2 เดินเที่ยวเส้นน้ำตก

ตอนที่ 3 … ภูกระดึง … วันที่ 3 เดินเที่ยวเส้นหน้าผา

วันสุดท้ายแล้ว สำหรับทริปภูกระดึง

จริง ๆ ยังไม่อยากกลับเลย .. อยากจะอยู่กับธรรมชาติแบบนี้ต่อ  แต่ความเป็นจริง คือต้องกลับไปทำงานต่อ งืออออ

ถามว่า 3 วันที่ผ่านมา ไปครบทุกที่ที่ตั้งใจรึยัง .. ก็ยังนะ แต่ก็เกือบครบอยู่ มีบางน้ำตกที่เราไม่ได้ไป

ส่วนวันนี้ มี 1 ที่ที่เราต้องไป … ผานกแอ่น .. จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น

ถ้าดูจากในแผนที่ จะอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือจากวังกวาง

หลังจากผ่านมา 2 เช้า  ที่พร้อมใจกับเพื่อน ไม่ยอมตื่นนอนไปดูพระอาทิตย์ขึ้น  ต่างพากันบอกว่า “มีพรุ่งนี้อีก ไปพรุ่งนี้ก็ได้”

แต่วันนี้ ผลัดวันไปพรุ่งนี้ไม่ได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้เราจะตื่นนอนที่ กทม. ….  ฮ่าาาา

วันนี้ เลยเป็นวันที่ต้องใช้ความพยายามมากกว่าทุกวัน  พูดเลยยย มากกว่าเมื่อวานที่เดิน 20 กม. อีก

……  การตื่นเช้านี่มันยากกกก  จริง ๆ

พยายามขุดตัวเองให้ได้ก่อนตี 4 ครึ่ง .. ไม่งั้นจะไปไม่ทันเวลาที่เจ้าหน้าที่อุทยานนัดนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันที่ตึกเพื่อเดินไปผานกแอ่นด้วยกันตอนตี 5

เดินออกมาจากเต็นท์ตอนตี 4 ครึ่ง   เจอลมหนาวที่ปะทะมา แล้วอยากจะวิ่งกลับเข้าเต๊นท์ทันที  ได้แต่ท่องไว้ว่า วันนี้จะเดินลงแล้วนะ .. ไม่มีพรุ่งนี้แล้วนะ  ..  ฮือออ สุดท้ายก็พาตัวเองเดินไปถึงห้องน้ำเพื่อล้างหน้า แปรงฟัน   กลับมาเอากล้อง แล้วก็ไปที่ตึกของอุทยาน เพื่อไปรวมตัว แล้วก็เดินไปผานกแอ่นด้วยกัน

ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเดินไปทางไหน  ก็เดินตามๆ กันไป คือมันมืดมาก

จากลานกางเต็นท์ ไปผานกแอ่น  ระยะทางประมาณ 1.5 กม. (ใช้ทางที่ไม่ได้ผ่านลานวัดพระแก้ว)  พอไปถึง ต่างคนก็ต่างจับจองหามุมสำหรับดูพระอาทิตย์ขึ้น สำหรับคนที่จะถ่ายรูปนี่ต้องดูเข็มทิศกันเลยทีเดียว ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นทางไหน

รอ ๆ ๆ ๆ ไปซักพัก จนประมาณ 6 โมง 10 นาที  แสงเริ่มมา … น้ำตาจะไหล … วันนี้ฟ้าไม่เปิดดดดดด  T^T

ฟ้าปิดซะขนาดนี้  อย่าหวังว่าจะได้เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวของพระอาทิตย์เลย … แค่แสงก็ยังไม่ค่อยจะเห็น

ถ่ายรูปเมฆขาว ๆ คลุมท้องฟ้าไป   พร้อมกับบอกตัวเองไปว่า นี่แหละธรรมชาติ ..​เราไปบังคับให้เป็นไปตามที่เราต้องการไม่ได้หรอก  แต่จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่า ไม่สวยนะ    คือตั้งใจจะมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น พอไม่ได้รูปเลยเศร้าแป๊บ   แต่ถึงแม้จะไม่เห็นหรือไม่ได้รูปก็ตาม … แต่ถ้าพูดถึงวิวกับบรรยากาศ  มันก็ยังสวยอยู่นะ ได้อีกอารมณ์นึง

แต่ถ่ายรูปแนวนี้ ไม่ค่อยจะรอดจริง ๆ ขอกลับไปฝึกฝนก่อนนะ อยากจะถ่ายให้ได้ดีกว่านี้ >~<

PC190220

PC220929

PC220939

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พอรู้แล้วว่า วันนี้ฟ้าคงไม่เปิดจริง ๆ รอไปก็เท่านั้น    เลยตัดสินใจเดินกลับเต็นท์ดีกว่า เพราะต้องไปเก็บเต็นท์อีก

กะว่าจะมาถ่ายรูปกับป้าย ผานกแอ่น ซักหน่อยเพราะมีแสงแล้ว .. แต่พอเห็นคนรอถ่ายรูปเท่านั้นล่ะ .. พี่ขอยอมแพ้ค่า

PC220944

เดินกลับวังกวาง เราก็ใช้เส้นทางที่ไม่ผ่านลานวัดพระแก้ว  เดินประมาณครึ่งชั่วโมง ก็กลับมาถึง

มาแวะดูป้ายกันหน่อย  ว่าไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ครบรึยัง ^__^

PC220762

กลับมา ก็เอาของที่เช่ามาคืนอุทยาน (เอามาคืนตรงหลังตึกที่ทำการ ที่เดียวกันกับตอนมาหยิบไป ยกเว้นผ้าห่มนะ เอาไปคืนตรงที่ยืมมา คือเดินเข้าไปด้านในลานกางเต็นท์ จะมีตึกด้านหลังฝั่งที่มีบ้านพักกับห้องน้ำ อยู่ซ้ายมือ)

จากนั้นก็เก็บเต็นท์ เก็บของ เพราะจะต้องเอาไปไว้ให้ลูกหาบก่อน 9 โมง  (ลืมบอกไปว่า 1 วัน ก่อนลงจากภู ถ้าจะจ้างลูกหาบ ให้ไปแจ้งที่เจ้าหน้าที่อุทยานด้วยนะ ว่าพรุ่งนี้จะลงจากภูและจะจ้างลูกหาบด้วย)

พอเก็บของเสร็จ ก็ไปซื้อ tag ที่ตึกด้านหลังที่ทำการอุทยาน จากนั้นเดินมาตรงศาลา จะมีตาชั่งและเจ้าหน้าที่อยู่ ก็มาติดต่อจ้างลูกหาบตรงนี้ ชั่งของ ติด tag เก็บ tag ไว้ส่วนนึงเอาไว้ตอนรับกระเป๋าด้านล่าง  จากนั้นก็เสร็จสิ้นกระบวนการ .. เดินตัวปลิวไปหาอะไรกินได้แล้วววว

ก่อนจะเดินลงก็หาข้าวกินก่อน  และที่ขาดไม่ได้ก็คือกาแฟ  ไม่งั้นคงเดินเบลอ ๆ ทั้งวัน

PC220962

คนพร้อม.. อิ่มแล้ว  ร่างกายก็พร้อม แต่ใจไม่ค่อยจะพร้อม .. ได้เวลาเดินลงละสินะ ยังไม่อยากลงจากภูเลยยย

เดินลงนี่ไม่ค่อยจะมีแรงจูงใจเหมือนตอนเดินขึ้นเลย ตอนเดินขึ้นนี่…นึกถึงแต่การได้เดินเที่ยว ได้ใช้ชีวิตอยู่บนภู  แต่ตอนเดินลงนี่…พรุ่งนี้เราต้องกลับไปทำงานละสินะ 555+

เดินกลับทางเดิมก็เหมือนตอนเดินขึ้น คือ จากวังกวางเดินไปหลังแป เป็นทางราบ 3.5 กม จากนั้นเดินลงเขาอีก 5.5 กม.

รูปนี้ถ่ายตอนมาถึงหลังแปแล้วนะ

PC220982

เดินลงเส้นทางเดิม เลยไม่มีอะไรให้เล่าเพิ่ม ดูรูปแทนละกัน

เห็นมุมกล้องละอาจจะแปลกใจ  ทำไมเหมือนเดินขึ้น  .. คือเดินลงนะ แต่หันหลังกลับ ไปถ่ายรูปมุมคนเดินขึ้น >,<

ตอนเดินลง ก็สวนกับคนเดินขึ้นเยอะอยู่นะ ทั้งๆที่ไม่ใช่วันหยุด

PC220989

PC220992

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ต้นไม้ใหญ่ ..​ชอบบบ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เบอร์สำคัญ  เผื่อมีอะไรระหว่างทาง .. แต่ไม่มีจะดีกว่า  ^^

PC221033

PC221082

ระหว่างเส้นทางการเดิน   มันสวยจริง ๆ นะ  มีอะไรให้แวะถ่ายรูปได้เรื่อย ๆ เลย  ถึงแม้เราจะเดินผ่านเส้นนี้ไปแล้วเมื่อ 3 วันก่อน  พอวันนี้กลับมาเดินผ่านที่เดิม ..​ เราก็ยังรู้สึกว่ามันสวย จนทำให้เราต้องแวะถ่ายรูปอีก

PC221076

PC221079  PC221070

PC221060

เดินลงก็แวะทานข้าวระหว่างทาง 1 มื้อ

เริ่มเดินตอนเที่ยง มาถึงข้างล่างตอน 4 โมงเย็น  พอพูดว่าเดินลง ดูแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันง่าย สบาย ๆ ใช้กำลังน้อยกว่าตอนขึ้น .. แต่เราก็ยังชอบการเดินขึ้นมากกว่าเดินลงอยู่ดี ..

เพราะเดินลงนี่ต้องลงดี ๆ นะ ทิ้งตัวลงไปเรื่อย ๆ นี่อาจจะมีการลื่นหรือเบรคไม่อยู่ ลงน้ำหนักไม่ดีเจ็บเข่า เจ็บหัวแม่เท้าอีก   แต่เดินขึ้นสำหรับเรา ใช้แรง พลังกายพลังใจ บวกแรงบันดาลใจจากทิวทัศน์ข้างบนอีกหน่อย  เราเลยรู้สึกว่าเดินขึ้นสบายกว่าตอนลง เพราะไม่ต้องมาเกร็งขาหรือต้องระวังเรื่องน้ำหนัก / การทิ้งตัว

ในที่สุดก็ลงมาถึง … เดินกันเยอะขนาดนี้ ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้   เหมือนได้ออกกำลังไปด้วย ชมธรรมชาติไปด้วย สุขภาพกายและใจแข็งแรงไปด้วยกันแน่นอนค่ะ

PC221084

เดิจลงมาถึงแล้ว สำคัญเลยคืออย่าลืมมาลงชื่อออกนะคะ  (เพราะขาขึ้น ก็ลงชื่อเข้าภูกระดึงเอาไว้ เดี๋ยวเค้าจะตกใจว่าเราหายไปไหนค่าาา)

PC221088

เดินลงมาถึงก็แวะล้างหน้าล้างตาที่ห้องนำ้ หลังศาลารับกระเป๋า  หรือถ้าอยากสบายตัวก็อาบน้ำเลย

จากน้ันก็เอา tag มารับกระเป๋าตรงศาลา จ่ายเงินค่าขนกระเป๋าให้กับลูกหาบ  แล้วก็เสร็จทุกอย่าง จบ ปิดทริปค่าาา

จากภูกระดึง ก็ขึ้นรถสองแถว กลับไปร้านเจ็กิมเหมือนเดิม เพื่อไปรอขึ้นรถทัวร์กลับ กทม.

มาถึงร้านเจ๊กิมประมาณ 5.15 น.  หาอะไรกินรองท้องต่อ ส่วนเพื่อนเราก็ต้องต่อรถไปชุมแพ  เพื่อไปขึ้นรถทัวร์กลับเชียงใหม่  เราก็นั่งชิว ๆ ไป เพราะเวลาหน้าตั๋วรถทัวร์บอกว่าเวลากลับคือ  ทุ่มครึ่ง   ..​   ขากลับเราได้ตั๋ว VIP ของ บขส. ถ้าจำราคาไม่ผิด ประมาณ 500 บาท (ซื้อที่หมอชิต)

เพื่อความชัวร์  เดินไปถามพี่ที่เค้าอยู่ตรงโต๊ะตั๋วรถทัวร์ดีกว่า ….   ที่ร้านเจ๊กิม จะมีมุมติดต่อซื้อตั๋วรถทัวร์ อยู่มุมขวามือของร้าน (หันหน้าเข้าร้านนะ) มาติดต่อซื้อตั๋ว หรือสอบถามข้อมูลได้ตรงนี้เลยนะ

เดินไปแบบสบาย ๆ ว่าง ๆ อ่ะ  ไม่มีอะไรทำ ระหว่างรอรถ ก็เช็คข้อมูลกันซักนิด ว่ารถรอบทุ่มครึ่งของ บขส. วันนี้มาจอดแวะรับตามเวลานี้ใช่รึเปล่า เผื่อจะมีสายหรือมีอะไรทำให้เวลาเลื่อนเล็กน้อย คือไม่อยากขึ้นรถผิดคัน

พอได้คำตอบเท่านั้นล่ะ  ยืนช็อคไป 3  วิ …. “น้องคะ เวลาหน้าตั๋ว เป็นเวลาที่ออกจากสถานีต้นทางค่ะ คันนี้ออกจากเชียงคาน  มาถึงนี่ก็ประมาณ …..  4 ทุ่ม นิด ๆ ค่ะ”

คืออึ้งไป  นี่คือความผิดพลาดดดด ไม่เช็คให้ดีก่อนนนน แล้วเราจะทำอะไร กว่าจะถึง 4  ทุ่ม  .. นั่งบริจาคเลือดให้ยุงมาดูดเลือดเล่นเหรอออ

แต่บ่นไปก็เท่านั้น  ทำอะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ สุดท้ายก็ได้แต่นั่งรอ

พอดูเวลาขากลับ กทม.​ แล้ว รถทัวร์ของแอร์เมืองเลย มีรอบเยอะกว่าเยอะเลย  ระหว่างนั่งรอ ก็นั่งคุยกับคนแถวนั้นไป แล้วก็มีรถทัวร์ของแอร์เมืองเลยมาจอดรับคนเรื่อย ๆ จนสุดท้าย เหลือนั่งอยู่ที่ร้านเจ๊กิมไม่ถึง 10 คน   เจ๊ก็ปิดร้านไปแล้วด้วย

IMG_8330

IMG_8332

สรุป  ..​ได้ขึ้นรถตอน 4 ทุ่มค่าาา พี่ง่วงงงง

จากที่ได้ขึ้นรถของทั้ง บขส. และ แอร์เมืองเลย  เราว่า บขส. นั่งสบายกว่า  แต่สำหรับขากลับ ถ้าจะเอาสะดวกเรื่องเวลา ก็นั่งแอร์เมืองเลยเถอะ มีหลายรอบให้เลือก  ไม่งั้นก็ต้องนั่งรอจน 4 ทุ่มแบบเราเนี่ยล่ะ

สำหรับทริปนี้ ก็จบไปด้วยดี มาสรุปทริปกันหน่อยดีกว่า

สรุปทริปภูกระดึง

  • ทริป 4 วัน 3 คืน : 19 – 22 ธ.ค. 58
  • การเดินทาง : นั่งรถทัวร์จาก กทม. มาผานกเค้า (8 – 10 ชม.) จากนั้นต่อรถสองแถวจากร้านเจ๊กิมเพื่อไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง (ประมาณ 20 นาที)
  • ค่าใช้จ่าย : ประมาณ 2,900 บาท
    • ค่ารถ : 1,020 บาท (ค่ารถทัวร์ไปกลับ ค่ารถสองแถว)
    • ค่ากิน : 1,000 บาท (ค่าอาหาร 4 วัน = 12 มื้อ  ค่ากาแฟ ค่าน้ำ)
    • ค่าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง = 280 (ค่าเข้า ค่าเช่าเครื่องนอน ค่าสถานที่กางเต็นท์)
    • ค่าลูกหาบ = 600 บาท (ขึ้นภู และลงภู)
  • ระยะทางการเดินทั้งหมด : 53 กม.
    • วันที่ 1 : 9 กม.    (เดินขึ้นภูกระดึง ไปวังกวางซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์)
    • วันที่ 2 : 10.5 กม.    (เดินเส้นน้ำตก ไปจนถึงน้ำตกถ้ำใหญ่ เดินกลับมาที่องค์พระพุทธเมตตา แล้วไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก)
    • วันที่ 3 : 21.3 กม.  (ไปสระอโนดาต จากนั้นไปผานาน้อยเพื่อเดินเส้นริมหน้าผา ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก)
    • วันที่ 4 : 12 กม.   (ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น เดินกลับวังกวาง แล้วเดินลงภูกระดึง)

ก่อนจะจบการเขียนถึงทริปนี้ไป อยากจะบอกว่า มาที่นี่ไม่ลำบาก ทั้งเรื่องของกิน ที่พัก และห้องน้ำ จะไปเดินเท่ียว ก็มีทั้งจุดที่ไกลและใกล้  จักรยานก็มีให้เช่าปั่น

ถ้ายังพอมีแรง และอยากมาอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ  .. มาภูกระดึงเถอะนะ  มาลองเดินดูซักครั้ง มาดูว่ากำลังกายและกำลังใจ จะพาเราไปถึงข้างบนภูได้ไม๊   จริงอยู่ที่พอไปถึงแล้ว มันรู้สึกได้ว่า “เฮ้ย.. เราก็ทำได้นี่นา” แต่ที่ได้มากกว่านั้นอีก ก็คือธรรมชาติสวย ๆ ทั้งระหว่างทาง และบนภู  .. ต้นไม้ ภูเขา และอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ถ้าเราไม่พาตัวเองมาถึงตรงนี้  ก็คงไม่ได้เห็นแน่ ๆ ….   มาเห็นและมาสัมผัสด้วยตัวเอง ซักครั้งนึงเถอะนะ …………   ^__^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *